กับภารกิจเชื่อมสัมพันธ์ไทย-จีน รอบ 2 ของ วรรณไว_พัธโนทัย

จากการที่จอมพลถนอม มอบหมายให้คุณประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์ ร่วมเดินทางไปกับทีมปิงปองไทย เพื่อต้องการให้คุณประสิทธิ์หาโอกาสผูกสัมพันธ์กับผู้นำจีน เพื่อให้ภารกิจสำเร็จลุล่วง คุณประสิทธิ์จึงได้ขอให้นายวรรณไว ซึ่งเคยพำนักศึกษาอยู่ในประเทศจีนมาเป็นเวลานาน ครั้งเมื่อถูกส่งไปเชื่อมความสัมพันธ์เมื่อวัยเยาว์สมัยจอมพล ป. โดยขอให้นายวรรณไว ช่วยติดต่อกับผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในการวางแผนเดินทางไปเยือนจีน และช่วยนำพาคณะเข้าพบปะสนทนากับผู้นำระดับสูงของจีนด้วย

เนื่องจากขณะนั้น พระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ยังคงบังคับใช้อยู่ นายวรรณไวจึงไม่มันใจว่า หากตกปากรับคำเป็นธุระในภารกิจใหญ่นี้แล้ว สุดท้ายจะไม่ถูกพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าวกลับมาเล่นงานในภายหลัง ดังนั้น นายวรรณไว จึงขอให้คุณประสิทธ์แจ้งไปยังคณะปฏิวัติ ให้รับรองการปฏิบัติภารกิจเชื่อมสัมพันธ์ในครั้งนี้ และให้มีลายเซ็นการอนุมัติที่เป็นลายลักษณ์อักษร ของผู้ใหญ่ในคณะปฏิวัติ ซึ่งในที่สุดผู้แทนคณะปฏิวัติโดย พลเอกประภาส จารุเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าคณะปฏิวัติในขณะนั้น ก็ได้ลงนามในเอกสารอนุมัติให้นายวรรณไว ร่วมเดินทางไปกับคณะปิงปอง หากแต่ปกปิดชื่อของนายวรรณไว มิให้เผยแพร่ให้สาธารณะทราบ และภายหลังจากการเจรจาอย่างลับๆของนายวรรณไว รัฐบาลไทยก็ได้รับคำตอบจากรัฐบาลจีนว่า รัฐบาลจีนขอแสดงความยินดีต้อนรับ ในฐานะแขกพิเศษของรัฐบาลจีน ซึ่งคำในสาสน์ที่ใช้ว่า แขกพิเศษขอรัฐบาลนั้น หมายความว่า ทางคณะจะมีโอกาสได้พบกับประธานเหมาเจ๋อตงหรือ อย่างน้อยก็ต้องโจวเอินไหล นายกรัฐมนตรี

และแล้วในวันที่ 27 สิงหาคม 2514 คณะทีมปิงปองของไทย ก็ได้เดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง โดยที่นายวรรณไว ได้เดินทางไปก่อนล่วงหน้า 1 วัน (26 สิงหาคม ) เพื่อเตรียมการ และเมื่อคณะทีมปิงปองเดินทางไปถึงกรุงปักกิ่ง ก็ได้รับการต้อนรับจากรัฐบาลจีนอย่างดีเยี่ยม มีริ้วขบวนชูช่อดอกไม้ รวมถึงร้องรำทำเพลงต้อนรับคณะฯ อย่างมโหฬาร และหลังจากเดินทางถึงกรุงปักกิ่ง คุณประสิทธิ์ ก็ได้แยกตัวออกจากทีมปิงปองพร้อมด้วยนายวรรณไว และได้เข้าพบกับคณะผู้นำระดับสูงท่านต่างๆตลอด 15 วัน ที่พำนักอยู่ในกรุงปักกิ่ง รวมถึงนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลด้วย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่นายกโจวฯ ได้มีโอกาสพบปะสนทนากับคณะผู้แทนไทยที่เดินทางไปจากประเทศไทยอย่างเปิดเผย หลังจากที่ขาดการติดต่อสัมพันธ์กันไปกว่า 14 ปี ในยุคของจอมพลสฤษดิ์ โดยคุณประสิทธิ์ ได้มอบของขวัญที่ระลึกเป็นงาช้าง มีฆ้องไทยแขวนอยู่ ซึ่งนอกจากจะเป็นศิลปหัตถกรรมของไทยแล้ว ยังมีความหมายว่า เราได้มาเคาะเรียกมิตรภาพกับจีนแล้ว การพบปะสนทนาดำเนินไปด้วยบรรยากาศที่เป็นมิตรอย่างยิ่ง จีนยินดีที่จะติดต่อกับไทยในด้านต่างๆอย่างไม่เป็นทางการไปก่อน และหลังจากนั้น ก็มีการติดต่อไปมาหาสู่กัน อย่างไม่เป็นทางการและกึ่งทางการเรื่อยมา จนกระทั้ง ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 ก็ได้มีการบรรลุความสัมพันธ์ทางการทูต โดยการเดินทางไปลงนามเชื่อมความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการของ มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี ที่นครปักกิ่ง

ใกล้เคียง